กีฬาฟุตบอล กีฬายอดนิยมอันดับ 1 ของโลก

ฟุตบอล
ฟุตบอล-1

     ประวัติ กีฬาฟุตบอล จุดเริ่มต้นเป็นมาอย่างไร เชื่อว่ากีฬาฟุตบอลคงเป็นที่รู้จักสำหรับคนทั่วไป ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบกีฬาหรือไม่ก็ตาม เพราะฟุตบอลมีจุดเริ่มต้นที่เป็นบ่อเกิดและตำนานมาอย่างยาวนาน จนมีการพัฒนานำกีฬาฟุตบอลเข้าสู่หลายๆ ประเทศทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ทั้งฟุตบอลยังเป็นกีฬาสากลที่ทั่วโลกนิยมใช้เล่นเพื่อความสนุกสนานและความบันเทิง
     เริ่มแรกต้นกำเนิดของฟุตบอลนั้นยังไม่มีใครยืนยันได้แน่ชัดว่าถือกำเนิดมาจากที่ใด ประเทศอะไร และใครเป็นผู้ก่อตั้งได้อย่างชัดเจน โดยมีหลายๆ เสียงที่ออกมาพูดแตกต่างกันไปถึงต้นกำเนิดของฟุตบอล อย่างเช่นประเทศฝรั่งเศสเองก็ออกมาบอกว่าเค้ามีการละเล่นอย่างหนึ่งที่เป็นการละเล่นโบราณชื่อว่า ซูเลอ ที่คล้ายกับการเล่นฟุตบอลในปัจจุบัน หรือ ประเทศอิตาลีเองก็มีเหมือนกัน แต่ชื่อว่า จิโอโค เดล คาซิโอ ทั้งสองอย่างนี้แม้จะกล่าวให้คนเชื่อโดยมีแหล่งข้อมูลอ้างอิงบ้างก็ตาม แต่ก็ไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือพอจะชี้ชัดได้ว่าเขาเป็นผู้ก่อตั้งกีฬาฟุตบอลดังนั้นการจะเฟ้นหาจุดเริ่มต้นของฟุตบอลที่มีหลักฐานอย่างชัดเจน ก็ต้องเป็นประเทศอังกฤษที่มีการจัดตั้งสมาคมฟุตบอลอังกฤษอย่างเป็นทางการ มาตั้งแต่ พ.ศ. 2406 รวมถึงเกิดฟุตบอลอังกฤษแบบเป็นทางการในเวลาถัดมา ทำให้หลายฝ่ายมองว่าอังกฤษเป็นต้นกำเนิดฟุตบอลสมัยใหม่แทน ส่วนตำนานหรือจุดกำเนิดของฟุตบอลก็คงจะต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของอดีตที่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันได้อย่างชัดเจนต่อไป

จุดเริ่มต้นกีฬาฟุตบอลในประเทศไทย

ฟุตบอล-00001

     จุดเริ่มต้นของการนำกีฬาชนิดนี้เข้ามาในประเทศไทยนั้น มีจุดเริ่มต้นที่ไม่ต่างกับกิจกรรมหรือกีฬาชนิดต่างๆ อีกหลายอย่างที่แพร่เข้ามาผ่านนักเรียนทุน หรือ ผู้คนที่ได้เดินทางไปศึกษายังต่างประเทศ และได้สัมผัสกับการเล่นฟุตบอล จนกระทั่งเมื่อกลับถึงเมืองไทย ก็ได้นำกิจกรรมหรือความรู้จากการเล่นฟุตบอลที่แปลกใหม่มากระจายแพร่หลายส่งต่อให้คนอื่นๆ นั่นเอง มีประวัติบอกว่า ฟุตบอลเข้ามาในประเทศไทยในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ตอนนั้นได้มีเจ้าขุนมูลนายไปเรียนที่อังกฤษ เพื่อนำความรู้กลับมาพัฒนาประเทศ หนึ่งในนั้นก็คือ เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี ชื่อเล่นว่า ครูเทพ ท่านได้เอาการละเล่นชนิดนี้มาด้วย ตอนท่านเอากีฬาชนิดนี้มาเผยแพร่หลายคนไม่เห็นด้วยเนื่องจากการละเล่นชนิดนี้ต้องเล่นกลางแจ้ง แต่ประเทศไทยแดดร้อนไม่เหมาะเท่าไร ครูเทพไม่สนใจเดินหน้าเผยแพร่ต่อไปจนกระทั่งสามารถลบล้างเสียงของผู้ที่ไม่เห็นด้วย และพัฒนาต่อยอดกระแสความนิยมในการเล่นฟุตบอลมาจนถึงทุกวันนี้

กติกา ฟุตบอล และข้อมูลการเล่นฟุตบอลที่ควรรู้

     วันนี้เราได้รวบรวมกฎกติกา วิธีการเล่นฟุตบอลอย่างถูกวิธี รวมทั้งข้อมูลเทคนิคต่างๆ ตลอดจนสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับกีฬาฟุตบอล กติกา และ ข้อมูลระบบการแข่งขัน วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องอ้างอิงจาก FIFA ซึ่งเป็นสมาคมฟุตบอลที่มีชื่อเสียงระดับโลก

กฎกติกาการเล่นฟุตบอลสามารถแยกอธิบายออกได้ ดังนี้

ฟุตบอล-00002

ตำแหน่งและจำนวนผู้เล่น

     การเล่นฟุตบอลจะมีทั้งแบบทางการและไม่ทางการซึ่งหากผู้เล่นเล่นกันเอง กฎกติกาก็จะไม่ซีเรียสมากนัก คงเล่นเพื่อความบันเทิงและเน้นความสนุกสนานมากกว่า แต่หากนับการแข่งขันระดับทางการ แต่ละฝั่งจะสามารถส่งผู้เล่นลงสนามได้ ฝ่ายละ 11 คน และมีตัวสำรองได้ 6 คน แต่สามารถเปลี่ยนได้ระหว่างเกมเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น(อาจจะมีเพิ่มได้แล้วแต่กรณี อย่างบอลอุ่นเครื่องที่มีตัวสำรองได้มากกว่า และเปลี่ยนตัวได้มากกว่า) โดยผู้เล่นแต่ละฝ่ายจะแบ่งหน้าที่กันดังนี้ หนึ่งผู้รักษาประตู จะทำหน้าที่ป้องกันประตู เค้าจะสามารถใช้มือเพื่อรับลูกฟุตบอลได้ แต่พื้นที่การใช้มือของเค้าจะทำได้ในกรอบ 18 หลาเท่านั้น หากเกินกว่านั้น ห้ามใช้มือต้องใช้เท้าในการเล่นเหมือนผู้เล่นคนอื่น สองกองหลัง จะยืนอยู่หน้าผู้รักษาประตู จะทำหน้าที่ป้องกันการบุกของฝ่ายตรงข้ามไม่ว่าจะเป็นลูกบนพื้น หรือ ลูกกลางอากาศ สามกองกลางยืนอยู่หน้ากองหลัง ทำหน้าที่เชื่อมเกมระหว่างเกมบุกกับเกมรับ บางสถานการณ์ก็ทำหน้าที่จ่ายบอล หรือ เลี้ยงเพื่อทำประตู แต่บางครั้งก็ต้องลงไปช่วยกองหลังป้องกันประตูด้วย สี่กองหน้าทำหน้าที่หลักก็คือทำประตูฝ่ายตรงข้ามให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการยิงไกล ดวลแบบ 1-1 ลูกโหม่ง โดยจุดมุ่งหมายของการเล่นฟุตบอลให้ได้ชัยชนะก็คือการยิงประตูของอีกฝ่ายให้มากที่สุด เพื่อทำคะแนนในการชนะการเล่นฟุตบอลนั่นเอง

ผู้เล่นตัวสำรอง

     กีฬาฟุตบอลก็จะมีทีมผู้เล่นที่คล้ายกับกีฬาชนิดอื่นๆ เช่นกัน คือมีทั้งนักกีฬาตัวจริงและตัวสำรอง โดยการเปลี่ยนตัวสำรองลงไปในเกมการแข่งขันนั้นจะทำได้สูงสุด 3 คนต่อเกมเท่านั้น ซึ่งการเปลี่ยนตัวสามารถทำได้ตั้งแต่นาทีแรกที่เล่นเลย หรือ บางเกมอาจจะขอเปลี่ยนตัวตั้งแต่ช่วงวอร์มอัพก็ได้ นักกีฬาบางคนบาดเจ็บต้องเปลี่ยนออกก็มี การเปลี่ยนตัวนั้นจะเปลี่ยนด้วยเหตุผลสองอย่าง หนึ่งเปลี่ยนตามแท็คติคและกระแสที่เกิดขึ้นในเกม บางทีเกมนำอยู่ก็อาจจะต้องเปลี่ยนตัวรับลงมาเพิ่ม หรือ เกมตามก็ต้องเปลี่ยนนักเตะเกมบุกมาเพิ่ม สองเปลี่ยนเนื่องจากนักกีฬาบาดเจ็บ เพื่อทำให้เกมไม่เสียเปรียบมากนัก แต่การเปลี่ยนตัวนักเตะต้องระวังไว้ด้วย หากเปลี่ยนตัวครบแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนตัวได้อีก แต่หากเกิดเหตุการณ์ที่มีผู้เล่นในทีมเจ็บจนไม่สามารถเล่นต่อได้ และไม่สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นสำรองได้อีกต่อไป ทีมนั้นก็จำต้องอยมรับในสถานการณ์เช่นนั้น และต้องยอมเล่นต่อไปโดยที่ฝ่ายตนเองมีจำนวนผู้เล่นที่เสียเปรียบกว่า

ช่วงระยะเวลาในการเล่นฟุตบอล

     การเล่นกีฬาฟุตบอลจะถูกกำหนดด้วยระยะเวลาในการบีบหัวใจทั้งของผู้เล่นและผู้รับชมด้วย ซึ่งกีฬาฟุตบอลนั้นจะไม่มีการหยุดเวลาเมื่อบอลตายนั่นทำให้เวลามันจะไหลไปเรื่อยๆเพื่อรักษาบรรยากาศการเล่นเอาไว้ การเล่นฟุตบอลจะแบ่งออกเป็นสองครึ่ง ครึ่งละ 45 นาที โดยก่อนจะหมดเวลาแต่ละครึ่งจะมีช่วงทดเวลาบาดเจ็บประมาณ 3-5 นาที ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกรรมการว่าจะทดกี่นาทีระหว่างพักครึ่งจะให้นักกีฬาพักประมาณ 15 นาที ในกรณีที่ผลการแข่งขันเสมอกัน หากมีการกำหนดไว้อาจจะมีการเล่นช่วงต่อเวลาอีกสองครึ่ง ใช้เวลาครึ่งละ 15 นาที

การตัดสินผลการแข่งขัน

     กีฬาฟุตบอลจะมีกรรมการตัดสินวิ่งวนอยู่ภายในสนามฟุตบอลร่วมกับผู้เล่นทั้งสองทีม โดยจะเป็นผู้ควบคุมการเล่นของทั้งสองทีมและคอยตัดสินผลการแข่งขัน จะนับว่าภายในเวลาที่กำหนดใครจะทำประตูได้มากกว่ากัน แต่หากผลประตูเท่ากัน ถ้าเป็นการแข่งขันลีคก็จะจบลงตรงนั้นเลย แต่หากเป็นการแข่งขันแบบฟุตบอลถ้วย หรือ เกมสมัครเล่น อาจจะเพิ่มกฎลงไปว่าให้มีช่วงการเล่นต่อเวลา โดยการเล่นต่อเวลาจะมีแนวคิดอยู่สองแบบ หนึ่ง โกลเดนโกล หมายถึงหากฝ่ายใดทำประตูได้ก่อนจะเป็นฝ่ายชนะไปเลย สองซิลเวอร์โกล หมายถึงหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำประตูขึ้นนำได้ แล้วกลับมาเล่นต่อหากจบครึ่งต่อเวลานั้นฝ่ายตรงข้ามทำประตูได้จนเสมอก็จะเสมอ แต่หากทำไม่ได้ในครึ่งเวลานั้นก็เป็นฝ่ายแพ้ไป สุดท้ายหากยังไม่รู้ผล ก็จะเข้าสู่ช่วงการยิงจุดโทษเพื่อตัดสินหาผู้ชนะ ดังนั้นการตัดสินกีฬาฟุตบอลกรรมการจึงถือว่ามีส่วนสำคัญในการเป็นกำลังสำคัญเพื่อชี้ขาดผลแพ้ชนะด้วย

การฟาล์วในกีฬาฟุตบอล

     การเล่นฟุตบอลจะมีความชันเจนอีกอย่างหนึ่งคือ การใช้กำลังในการเล่นฟุตบอลที่มักจะรุนแรงกว่ากีฬาประเภทอื่นๆ จนกระทั่งอาจเกิดการกระทบกระทั่งหรือการบาดเจ็บจากการพุ่งเข้าชนจากเหตุการณ์ต่างๆ ได้ง่ายกว่ากีฬาชนิดอื่นๆ ทำให้ต้องมีการตั้งกฎขึ้นมาเพื่อความปลอดภัยของนักกีฬา การฟาล์วของเกมฟุตบอลมีหลายอย่าง แต่ส่วนใหญ่จะเกิดจากการปะทะกันอย่างเช่นการเสียบสกัดจากด้านหลัง การเสียบสกัดอย่างรุนแรง จงใจเตะฝ่ายตรงข้ามเพื่อสกัดลูกฟุตบอลพร้อมกับทำร้ายฝ่ายตรงข้าม การทะเลาะกันระหว่างผู้เล่น ซึ่งการฟาล์วเหล่านี้กรรมการจะมองว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงแตกต่างกันไป หากรุนแรงมากกรรมการจะเตือนด้วยการให้ใบเหลือง หากได้รับใบเหลืองสองใบกรรมการจะเปลี่ยนเป็นใบแดง แล้วไล่ผู้เล่นคนนั้นออกจากสนามไป (ออกจากสนามคือการออกจากพื้นที่ ต้องเข้าไปอยู่ในห้องพักนักกีฬา หรือ ขึ้นไปอยู่บนอัฒจรรย์ เพื่อลดการยั่วยุฝ่ายตรงข้าม) การฟาล์วหากเป็นพื้นที่นอกกรอบ 18 หลา ฝ่ายที่ทำฟาล์วจะเสียลูกฟรีคิก กล่าวคือ จะตั้งลูกนิ่งแล้วฝ่ายรับตั้งกำแพงขวาง ผู้เล่นสามารถที่จะยิงประตู หรือ จ่ายบอลเล่นก็ได้ ส่วนการฟาล์วหากเกิดขึ้นพื้นที่กรอบ 18 หลา จะเปลี่ยนจากฟรีคิกเป็นลูกโทษแทน การได้ใบแดงจะพิเศษอย่างหนึ่งก็คือ หากผู้รักษาประตูได้ใบแดง กรรมการจะหยุดเกมเพื่อให้ฝ่ายที่เสียใบแดงผู้รักษาประตูเปลี่ยนตัวก่อนจะเล่นต่อ แต่หากเปลี่ยนตัวครบ 3 คนแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนตัวได้ ต้องให้ผู้เล่นที่เหลือเปลี่ยนตำแหน่งมาเป็นผู้รักษาประตูแทน

การทำแฮนด์บอล

     การเล่นฟุตบอลต้องใช้เท้าและส่วนอื่นๆ ของร่างกายในการพาลูกฟุตบอลให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้า โดยมีข้อจำกัดคือห้ามใช้มือเพราะจะถือว่าเป็นการฟาล์ว เรียกได้ว่าคือการทำแฮนด์บอล กล่าวคือการใช้มือ ท่อนแขน สัมผัสลูกบอล ซึ่งหากไม่ได้ตั้งใจ หรือ ลูกบอลมาโดนเองกรรมการจะไม่ได้ลงโทษอะไรมองว่าเป็นจังหวะตามเกม การทำแฮนด์บอลหากนอกเขตโทษจะเสียฟรีคิก แต่ถ้าเป็นในกรอบเขตโทษจะต้องเสียลูกโทษ รวมถึงอาจจะโดนใบเหลือง ใบแดงได้ด้วยขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกรรมการผู้ตัดสินอีกด้วย

ลูกจังหวะล้ำหน้า

     การฟาล์วจนอาจทำให้ต้องเสียลูกโทษอีกอย่างหนึ่งคือ การล้ำหน้า โดยเป็นการที่ผู้เล่นฝ่ายบุกยืนอยู่คนเดียว โดนที่ไม่มีฝ่ายเกมรับอยู่ในระนาบเดียวกันเลย จะนับจากบอลออกจากเท้าของผู้เล่นฝ่ายบุก ขณะที่บอลออกจากเท้าแล้วมีผู้เล่นฝ่ายบุกยืนอยู่คนเดียว กรรมการข้างสนามจะยกธงขึ้นมาเพื่อบอกว่าล้ำหน้า ซึ่งการล้ำหน้าจะทำให้การบุกนั่นไร้ผลแม้ว่าจะส่งลูกเข้าประตูได้ก็ตาม แต่ล้ำหน้าจะไม่โดนบทลงโทษแรงถึงขั้นใบเหลือง ใบแดง การล้ำหน้าโดยถูกตัดสินโดยกรรมการในสนามโดยไม่ใช้ตัวช่วยอื่นใด ถือว่าเป็นเสน่ห์ของกีฬาฟุตบอลได้เลยทีเดียว

ระบบ VAR ฟุตบอล

     การดูภาพช้าหรือ ระบบ VAR ของฟุตบอลนั้น ยังไม่เป็นที่ยอมรับเท่าไรนัก เพราะยังมีข้อจำกัดอยู่ค่อนข้างมากทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ฟีฟ่า องค์กรใหญ่สุดของโลกฟุตบอลก็ได้ตอบรับการใช้ VAR แล้ว แต่การขอดูภาพช้าเพื่อตัดสินใหม่นั้นไม่สามารถขอพร่ำเพรื่อได้ กรรมการจะให้ดูได้จาก 4 กรณีต่อไปนี้เท่านั้น หนึ่งจังหวะการได้ประตูว่าล้ำหน้า ฟาล์ว หรือ ลูกบอลเลยเส้นประตูหรือไม่ สองจังหวะคาบลูกคาบดอกว่าเป็นการฟาล์วที่ควรจะเป็นจุดโทษหรือไม่(การมอบลูกโทษนั้นทำให้ผลการแข่งขัน กระแสของเกมเปลี่ยนแปลงได้ทันที) สามจังหวะการให้ใบเหลืองใบแดงว่าเหมาะสมหรือไม่เพื่อให้การตัดสินโปร่งใสยิ่งขึ้น (การที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดนใบแดงมีผลต่อการเล่นอย่างมาก) สี่จังหวะที่สร้างความสับสนของผู้เล่นว่าควรทำอย่างไร โดยการขอดู VAR นั้น กรรมการจะทำมือวาดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ เพื่อส่งสัญญาณว่าขอดู VAR จากนั้นกรรมการก็จะไปดูมอนิเตอร์ที่แสดงภาพช้า ความละเอียดสูง พร้อมกับฟังคำแนะนำจากกรรมการตัดสินอีกทีมที่อยู่ห้องดู VAR โดยเฉพาะเพื่อให้คำแนะนำและตัดสินได้อย่างถูกต้อง

อุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่น กีฬาฟุตบอล

     ฟุตบอลกลายเป็นกีฬายอดฮิตที่สุดระดับโลกด้วยรูปแบบที่เร้าใจและสร้างความตื่นเต้นให้ทุกขณะที่ร่วมแข่งขัน ทั้งนักกีฬาเองและผู้รับชมด้วย โดยอุปกรณ์สำคัญที่ใช้เล่นกีฬาฟุตบอล มีดังต่อไปนี้

ฟุตบอล-00003

เครื่องแต่งกาย ชุดกีฬาฟุตบอล

     เพื่อให้การเล่นฟุตบอลมีความเป็นสากลในทิศทางเดียวกันมากขึ้น เครื่องแต่งกายฟุตบอลจึงมีรูปแบบในแนวททางเดียวกัน แต่ก็ยังไม่เน้นรูปแบบเสื้อและกางเกงเท่าใดนัก เพียงแต่เสื้อกางเกงจะต้องมีเบอร์เสื้อชัดเจนทั้งด้านหน้า และด้านหลัง มีตราสโมสร ตราทีมชาติ หรือ ตราสัญลักษณ์ทีมที่เข้าแข่งขันชัดเจน ด้านหลังอาจจะมีการใส่ชื่อลงไปด้วยก็ได้ กางเกงอาจจะมีเบอร์หรือไม่มีเบอร์ก็ได้ แต่จุดเด่นของเค้าจะเป็นถุงเท้าต้องเป็นถุงเท้ายาวเพื่อคลุมสนับแข้ง(ต้องใส่สนับแข้ง) จากนั้นรองเท้าหากเป็นระดับการแข่งขันผู้เล่นจะต้องใส่รองเท้าสตั๊ดตามมาตรฐาน อาจจะใส่คนละลี หรือ สีเดียวกันก็ได้ แต่ก่อนจะลงแข่งขันฝ่ายจัดการแข่งขันจะต้องดูว่าผู้เข้าแข่งขันทั้งสองทีมสีเสื้อผ้า คล้ายกันหรือไม่ หากคล้ายกัน ผู้ตัดสินจะให้เปลี่ยนเพื่อป้องกันความสับสนเวลาตัดสิน หรือ หากเปลี่ยนไม่ได้กรรมการจะให้ใส่เสื้อสีอื่นทับแทน(เสื้อเอี้ยมซ้อมกีฬา) อีกเรื่องเกี่ยวกับเครื่องแต่งกายก็คือ หากนักกีฬาผมยาวสามารถมัดผมให้เรียบร้อยได้ด้วยยางมัดผม ต้องไม่ติดกิ๊ฟ หรืออะไรที่เป็นเหล็กแหลมเพื่อป้องกันการทิ่มแทงระหว่างเล่น หรือ หากนักกีฬามีปัญหาดวงตาสามารถใส่แว่นกันลมได้ แต่ต้องได้รับอนุญาตจากฝ่ายจัดแข่งขันก่อน
     ผู้รักษาประตูโดยหน้าที่ในทีมแล้ว ถือว่ามีหน้าที่ที่ชัดเจนและเห็นได้แตกต่างกว่านักเตะคนอื่นๆ ดังนั้นการแต่งกายจึงสามารถแตกต่างจากนักเตะคนอื่นๆ ได้ และเราจะเห็นได้บ่อยครั้งที่ผู้รักษาประตูจะใส่ชุดและรูปแบบการแต่งตัวที่ค่อนข้างต่างจากนักเตะคนอื่นๆ ในทีม รวมถึงกรรมการเองจะได้มองเห็นชัดเจนด้วย ส่วนเสื้อจะเป็นแขนยาว หรือ แขนสั้นก็ได้ ผู้รักษาประตูจะมีเครื่องมือเด่นอย่างหนึ่งเลยก็คือ ถุงมือ พวกเค้าต้องใส่เพื่อช่วยให้การป้องกันลูกฟุตบอลทำได้ง่ายขึ้น ถุงมือที่ดีจะลดแรงกระแทก แรงปะทะได้เยอะมาก รวมถึงบางคนอาจจะใส่หมวกแก็ปเพื่อเล่นเวลาที่ต้องย้อนแสงได้ด้วย บางคนเหนือไปกว่านั้นอาจจะมีการใส่เฮดการ์ดคล้ายกับนักมวยเพื่อป้องกันแรงกระแทกที่ศีรษะเวลาชนกับผู้เล่นกลางอากาศด้วย

ลูกฟุตบอลที่ใช้ในการเล่น

     ลูกฟุตบอลถือเป็นอุปกรณ์หลักที่สำคัญอีกชนิดหนึ่ง โดยเดิมที่ช่วงแรกของการเล่นนั้นเชื่อกันว่าตัวหนังทำมาจากกระเพาะอาหารของสัตว์ แต่ความนิยมของกีฬาชนิดนี้ทำให้มีการสร้างลูกฟุตบอลแบบใหม่ขึ้นมาด้วยยางสังเคราะห์ จากนั้นก็มีการพัฒนามาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน ทั้งประสิทธิภาพและลวดลายของลูกบอลนั้น ปัจจุบันลูกฟุตบอลมีการกำหนดเอาไว้ว่าเส้นรอบวงต้องมีขนาด 27-28 นิ้ว สองน้ำหนักประมาณ 14-16 ออนซ์ สามความดันระหว่าง 8.5-15.6 ปอนด์ สี่เส้นผ่าศูนย์กลาง 8.6-9 นิ้ว ซึ่งขนาดลูกฟุตบอลแบบนี้เรียกรวมว่า ลูกฟุตบอลไซส์ 5 หรือ เบอร์ 5

สนามที่ใช้ในการเล่นฟุตบอล

     สนามฟุตบอลในประเทศไทยได้เริ่มก่อสร้างมากมาย จนไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เห็นแต่สนามฟตุบอลเต็มไปหมด เพราะกีฬาฟุตบอลในไทยเป็นที่ยอมรับในหมู่นักกีฬาทั่วไป ทั้งยังเป็นเกมกีฬาที่ใครก็สามารถเล่นได้เพื่อความบันเทิง และยังสามารถคสร้างความผ่อนคลายและความสามัคคีให้กับผู้เล่นได้อีกด้วย
     ขนาดของสนามฟุตบอลจะมีความยาวประมาณ 90-120 เมตร และความกว้างประมาณ 70-90 เมตร ที่ขนาดของมันไม่แน่นอนก็เพราะว่ากีฬาฟุตบอลได้กำหนดขนาดสนามมาจากอีกหน่วยวัดหนึ่ง พอแปลงมาเป็นหน่วยเมตรอาจจะทำให้ความยาวดูคลาดเคลื่อนไป พื้นสนามจะเป็นได้ทั้งแบบหญ้าจริงและหญ้าเทียม ส่วนภายในสนามจะมีเส้นขอบล้อมรอบทุกด้านเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตรงกลางสนามจะมีเส้นแบ่งครึ่ง พร้อมกับมีรูปวงกลมทับอยู่ โดยจุดศูนย์กลางของวงกลมจะเท่ากับจุดกึ่งกลางสนาม ด้านขอบสนามทั้งสองฝั่งในแนวยาวจะมีประตูตั้งอยู่ โดยประตูจะมีความสูงประมาณ 2.44 เมตร กว้าง 7.4 เมตร คานและเสาประตูทั้งหมดต้องเป็นสีขาวมีตาข่ายขึงด้านหลังชัดเจน นอกจากนั้นออกมาจากประตูจะมีกรอบสีขาวซ้อนกันสองชั้น เรียกว่า กรอบเขตโทษ 18 หลา ด้านนอกสุดจะเป็นครึ่งวงกลมตั้งอยู่ตรงกลางของเส้นขอบนอกสุด และมีจุดที่เรียกว่า จุดยิงลูกจุดโทษตรงกลางของกรอบเขตโทษนี้

ข้อมูลเทคนิคการเล่นกีฬาฟุตบอล ในระบบลีก

ฟุตบอล-00004

     การเล่นฟุตบอลในปัจจุบันมีการพัฒนาการเล่นเพื่อให้เป็นสากล และมีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น จึงมีการลดแรงปะทะและเล่นกันด้วยสติ ลดการใช้อารมณ์และความรุนแรงในขณะการเล่นให้มากขึ้น และยังเน้นการผสมผสานกับเทคนิคการเล่น กลยุทธ์การเล่นอีกด้วย กลยุทธ์การเล่นนั้น เริ่มตั้งแต่การวางแผนการเล่น กำหนดบทบาทในการเล่นที่จะกำหนดผู้เล่นเอาท์ฟิลด์ออกเป็นสามส่วน ก็คือ กองหน้า กองกลาง กองหลัง โดยการวางตำแหน่งตัวผู้เล่นจะมีการสร้างสรรค์กลยุทธ์ใหม่ได้เสมอ จึงทำให้วงการฟุตบอลไม่หยุดนิ่งในการพัฒนารูปแบบและวิธีการเล่นต่อไป และยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องตลอดมาด้วย

การแข่งขันแบบลีก

     ฟุตบอลสิ่งที่ทำให้กีฬาชนิดนี้เติบโตมากที่สุดของโลก ก็คือ การบริหารจัดการระบบลีค จะเห็นว่ากีฬาชนิดนี้จะมีการเล่นในระบบลีคเยอะมาก อย่างไทยเราเองก็มีการเล่นระบบลีคตั้งแต่ไทยลีค 1-4 ซึ่งการแข่งขันระบบลีคก็คือการรวมตัวของสโมสรฟุตบอล เอามาแข่งขันกัน แบบพบกันหมด โดยลีคจะมีจำนวนทีมประมาณ 16-20 ทีม แต่ละทีมจะต้องไปเยือนและรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าบ้าน เมื่อแข่งกันครบจำนวนการแข่งขัน ใครได้คะแนนมากที่สุด (ชนะได้ 3 คะแนน เสมอ 1 คะแนน แพ้ 0 คะแนน) เป็นผู้ชนะได้แชมป์ลีคในซีซั่นนั้นไปหนึ่งซีซั่นก็จะใช้เวลาการแข่งขันประมาณ 10 เดือน

การแข่งขันแบบชิงถ้วย

     การแข่งขันระบบถ้วยเป็นอีกหนึ่งการแข่งขันที่พบเห็นกันได้มากเลยทีเดียว คือเป็นการแข่งแบบแพ้คัดออก ภายในการจัดการแข่งขันแบบนี้จะมีทีมฟุตบอลหลายๆ ทีมเข้าร่วมการแข่งขัน เพื่นเฟ้นหาทีมที่ดีที่สุดที่ชนะทีมฟุตบอลจากทุกสายที่ถูกนำมาแข่งขันกัน การจัดแข่งขันแบบนี้จะมีสองรูปแบบ หนึ่งจะเป็นการแข่งรอบแบ่งกลุ่ม โดยจะแบ่งทีมเข้าแข่งขันออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม จากนั้นแข่งแบบพบกันหมด ใครได้คะแนนมากที่สุดก็เข้ารอบต่อไป (บางรายการอาจจะมีเงื่อนไขอื่นด้วย อย่างรองแชมป์กลุ่มเข้ารอบ, อันดับที่สามที่ดีที่สุดเข้ารอบ) สองการแข่งแบบแพ้คัดออก จะเป็นการแข่งแบบนัดเดียวตัดสินผล หรือ สองนัดตัดสินผลก็ได้ ใครชนะก็เข้ารอบไป ที่กล่าวมาทั้งหมดคือกฎ กติกา การเล่นฟุตบอลแบบสากลและมีมาตรฐาน ไม่ว่าจะเล่นฟุตบอลประเทศใดก็มักจะมีรูปแบบและวิธีการเล่นดังที่กล่าวมานี้